ผู้สนับสนุน Blog

วันอังคารที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2559

แนะนำหนังสือดี Secrets Milionaire Mind . เขียนโดย T Harv Eker ประวัติ เรื่องสั้นน่าอ่าน smotv

T. Harv Eker 
   นักสร้างแรงบันดาลใจ และอาจารย์ของเศรษฐี  ประวัติ T Harv Eker  เป็นคน อเมริกาเหนือ 
เปลี่ยนตัวเองจากคนถังแตก และเริ่มต้นธุรกิจด้วยเงินไม่ถึง 3000 เหรียญ 

เค้าขายเครื่องออกกำลังกายเครื่องฟิตเนส ทำตนเองให้กลายเป็นเศรษฐีร้อยล้านได้ในเวลาสองปีครึ่ง มีสาขาถึงสิบสาขา และเค้าได้ถ่ายทอดเคล็ดลับความสำเร็จทางการเงินของเค้าสู่ผู้สัมนา และก่อตั้งบริษัท Peak Potential Training ซึ่งปัจจุบันเป็นหนึ่งในบริษัทที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงในสหรัฐอเมริกา โดย เค้ามีแนวคิดสมองเงินล้าน


วิธีคิดแบบคนรวยและคนจน หนังสือมีขายในร้านหนังสือชั้นนำทั่วไป 

นี่คือ  หลัก 17 ข้อนั้นของ T Harv Eker  คลิกชมวีดีโอเสียงได้


  นี่คือ 17 ข้อคิดส่วนหนึ่งในหนังสือ

1. คนรวยเชื่อว่า "ฉันควบคุมชะตาชีวิตของตัวเอง" คนจนเชื่อว่า "ฉันถูกลิขิตให้เป็นอย่างนี้"

2. คนรวยเล่นเกมการเงินเพื่อที่จะเอาชนะ คนจนเล่นเกมการเงินเพื่อไม่ให้แพ้

3. คนรวยทุ่มเทเพื่อความรวย คนจนแค่อยากรวย

4. คนรวยคิดการใหญ่ คนจนคิดการเล็ก

5. คนรวยมุ่งความสนใจไปที่โอกาส คนจนมุ่งความสนใจไปที่อุปสรรค

6. คนรวยชื่นชมผู้ร่ำรวยและประสบความสำเร็จคนอื่นๆ คนจนชิงชังผู้ร่ำรวยและประสบความสำเร็จ

7. คนรวยคบหาสมาคมกับคนที่มองโลกในแง่ดีและประสบความสำเร็จ คนจนขลุกอยู่กับคนที่มองโลกในแง่ร้ายหรือไม่ประสบความสำเร็จ

8. คนรวยเต็มใจโปรโมทตัวเองและคุณค่าของตนเอง คนจนมองการขายและโปรโมชั่นในแง่ลบ


9. คนรวยมองปัญหาเป็นเรื่องเล็ก คนจนมองปัญหาเป็นเรื่องใหญ่

10. คนรวยเป็นผู้รับที่ยอดเยี่ยม คนจนเป็นผู้รับที่ยอดแย่

11. คนรวยเลือกที่จะได้รับเงินตามผลงาน คนจนเลือกที่จะได้รับเงินตามระยะเวลาที่ทำงาน

12. คนรวยเลือก "ทั้งสองทาง" คนจนเลือก "ทางใดทางหนึ่ง"

13. คนรวยสนใจมูลค่าทรัพย์สิน คนจนสนใจแต่รายได้จากการทำงาน

14. คนรวยเก่งเรื่องการบริหารเงิน คนจนเก่งเรื่องการบริหารเงินแบบผิดๆ

15. คนรวยให้เงินทำงานหนักเพื่อตัวเอง คนจนทำงานหนักเพื่อให้ได้เงิน

16. คนรวยมุ่งไปข้างหน้าแม้จะหวาดกลัว คนจนปล่อยให้ความกลัวหยุดยั้งตนเอง


17. คนรวยเรียนรู้และเติบโตอยู่ตลอดเวลา คนจนคิดว่าตัวเองรู้ดีอยู่แล้ว

      จากแนวคิด สมองเงินล้านทั้ง 17 ข้อนี้เองที่ทำให้หนังสือของ T Harv Eker ขายดีติดอันดับหนังสือขายดีที่สุดในหลายประเทศ.



วันพุธที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2559

รองเท้า onitsuka tiger mexico 66 asics แท้มีประวัติความเป็นมาอย่างไร ขายและใช้กันเยอะ จากการลองใช้ ตามความรุ้สึกผุ้เขียน มาอ่านกันก่อนซื้อใช้ครับ


Onitsuka Shoe  ประวัติรองเท้า  Onitsuka Tiger เป็นรองเท้าที่เห็นใส่กันมากในกลุ่มวัยรุ่น และแทบทุกวัยโดยเฉพาะท่านที่ไปเที่ยวที่ญี่ป่นมา 
                               


อาจเป็นเพราะ นักท่องเที่ยวทีไป ไกด์นำเที่ยวได้พาไปรู้จักกับรองเท้ายี่ห้อนี้และได้ทราบประวัติความเป็นมาจึงได้ซื้อมาใส่กัน รอบเท้ายี่ห้อ Onitsuka Tiger ก่อตั้งโดย Mr Kihachiro Onitsuka ในปี 1949 มีวัตถุประสงค์หลักคือให้เด็กๆวัยรุ่นหันมาสนใจการเล่นกีฬา โดยเริ่มต้น ผลิดรองเท้า  บาสเก็ตบอล และทำมากขึนในปี1952 จะเป็นปีไทยบวกด้วย 543 กันเองนะครับ และในปี 1953 Toru Terasawa ได้ผลิตรองเท้าวิ่ง หรือ Running ขึ้นมา โดย ASICS บริษัทในเครื่อเดียวกัน ได้เปิดตัวรองเท้า วิงมาราธอนในปี 1966 และได้นำไปแข่งในกีฬาโอลิมปิกที่จะถึงในอีก สองปีต่อมา
                                
  ตามที่นักท่องเที่ยวทีไปที่ญี่ปุ่นมา รองเท้าที่ เป็นที่นิยมและโดดเด่นมาก เพราะ kenji Kimihara นักวิ่งมาราธอน ของประเทศญี่ปุ่น ได้รับเหรียญเงินจากการแข่งขัน โอลิมปิกที่ประเทศ แม็กซิโก Mexico Olympics Marathon in 1968 และจากชัยชนะในครั้งนั้น รุ่นที่นิยมตลอดมาและมีราคาสูงคือ Onitsuka Tiger Mexico66 คือรุ่น Maxico 66 นั้นเอง
จากชัยชนะในครั้งนั้นเริ่มมีการนำเข้าไปขายในอเมริกาและเริ่มคว้ารางวัลจากการแข่งขันในรายการต่อมา แบบตามติด Adidas แชมป์เก่ากันเลยที่เดียว ซึ่งเป็นที่บอกถึงคุณภาพของ Onitsuka Maxico66
   รองเท้ารุ่นดังกล่าวมีราคาสูง อีกสาเหตุหนึ่งคือ เป็นรองเท้าที่ผลิดในประเทศญี่ปุ่น มีการผลิดทีดีและสามารถใช้งานได้ทนทาน  และมีราคาค่อนข้างสูง
ตามความรู้สึกของผู้เขียน ซึ่งไม่ได้อยู่ค่ายใดๆ รองเท้ากีฬาในปัจจุบัน มีแยกประเภทมาก เช่น Running ,Cross training, Badminton ate มากมาย หรือจะหารองเท้าเที่ยวซักคู่ก็ต้อง(ยี่ห้อที่ไปคนละทาง) แต่ก็ดูเด็กๆไป หรือ (ยี่ห้อnew อะไรซักอย่าง) ซื่งก็ใส่กันเยอะแล้ว และคุณภาพอาจไม่สู้ nike หรือ adidas และไม่สามารถใส่ในทุกโอกาส หลังจากทีได้ลองใส่ Onitsuka แล้วเป็นความรู้สึก ที่ผสมๆกัน คือ ไม่ไปทางเดียวเกินไปแบบ running หรือไม่ ใหญ่เกินไปแบบรองเท้า Tennis หรือบางเกินไปแบบ รองเท้าโยคะ และไม่แบบเกินไปหรือเชยจนใส่เที่ยวไม่ได้ อีกอย่าง ตรงด้านส้นของรองเท้ามี แถบห้อยออกมาเป็นยี่ห้อ Tiger  มุมนี้ แหละนอกจากเป็น design แล้ว ยัง เป็นที่วางขอบกางเกงยีนส์ ได้อย่างลงตัว ไม่ได้แค่เผยยี่ห้อ tiger อย่างเดียวแรายังได้ประโยชน์ด้วย คือกางเกงไม่เลอะมากในกรณีที่กางเกงตัวนั้นยาวไปซักครึ่ง cm หรือไปเดินที่มีพื้นเฉะนิดหน่อย ก็ผ่านได้ด้วยดี  รองเท้าก็ขึ้นอยุ่กับผุ้สวมใส่ครับ ทุกยี่ห้อดีหมดขอให้เหมาะกับเรา

    ตามที่ เห็น Maxico 66 ราคาสูงสุด และหาซื้อสินค้าแท้ ๆได้ ตามห้างดังๆทั่วไป แต่เราก็มักจะเห็นคนใส่เป็นรุ่น Tiger กันเยอะ และดูธรรมดาไปเลยก็มี อาจเป็นเพราะ ตอนนี้ มีฐานการผลิตที่  ประเทศ อินโดนีเซีย ซึ่งทำให้ราคาถูกลง และคุณภาพรวมถึงวัสดุก็จะแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด เวลาซื้อให้ดูที่ป้ายบอกสถานที่ผลิดและรุ่นด้วย ดูตรงจุดต่างๆแม้แต่พื้นรองเท้า ของแท้จะปราณีตมากมีสัญญาลักษณ์แทบทุกจุด

     ผุ้เขียนได้มีโอกาส มีนักศึกษา นานาชาติมาฝึกงานที่ ทำงานจึงถามเกี่ยวกับสินค้ายี่ห้อนี้ จึงได้คำตอบมาว่า Tiger เป็นรองเท้าของนักเรียน​ญี่ปุ่นเค้าให้ใช้กันทุกคน( มีบังคับให้ใส่) และราคาไม่แพง พอเช็คแล้วนักเรียนใส่กันเป็น  Tiger ที่ผลิดที่ อินโดนีเซีย ถ้าเรามองว่าเพื่อให้ ได้ออกกำลังกายกัน แสดงว่าสินค้าที่ผลิตที่นอกญี่ปุ่นก็มีคุณภาพที่น่าใช้และราคาถูก แต่เหนือฟ้ายังมีฟ้า ถูกกว่านั้นยังมี ผลิตในจีนครับท่าน ซึ่งถูกมาก ซื่งผู้เขียนไม่ขอกล่าวถึง ทำดีย่อมมีคนทำตาม โดยจะกล่าวแต่เพียงว่า สินค้าที่วัยรุ่นใช้กันคือรุ่น Tiger แต่จะให้ดีและมีคุณภาพขึ้นมา ก็จะเป็น Maxigo  66
                  

ถ้ามีเรื่องราวใหม่ๆก็จะมาเขียนอีกครับ
ขอบคุณสำหรับ ทุก like เมน  แชร์นะครับ